โคเอนไซม์ Q10 ให้คุณได้มากกว่าความสวยงาม

     เมื่อพูดถึง โคเอนไซม์ คิวเทน คนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่เรื่องความสวยความงาม เพราะผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะโปรโมท คิวเทน ว่าช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คิวเท็น นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆอีามากมาย

         โคเอ็นไซม์ คิวเท็น ( Coenzyme Q10 ) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองจาก วิตามิน  เกลือแร่ และ โปรตีน ภายในร่างกาย แต่หลังจากอายุ 20 ปีไปแล้ว ร่างกายจะสร้างได้น้อยลงแต่ความต้องการใช้มีมากขึ้น  คิวเทนทำหน้าที่ป้องกันเซลล์ไม่ให้ทำปฎิกิริยากับออกซิเจน ช่วยให้ร่างกายนำออกซิเจนมาใช้งานได้มากขึ้น ปัจจุบันมีการนำ คิวเทน มาใช้ร่วมกับคลอโรฟิลลินทำให้ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระดีมากยิ่งขึ้น และหน้าที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งก็ คือ เป็นตัวจุดประกายให้ไมโตรครอนเดียในเซลล์ สามารถสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย ดังนั้น ถ้าร่างกายเราขาด วิตามิน คิวเท็น จะทำให้ร่างกายขาดพลังงงาน ไปอย่างมหาศาล วิตามินคิวเท็นจึงจำเป็นมากสำหรับอวัยวะที่ทำงานหนัก และต้องใช้พลังงานอย่างสูงมากเป็นพิเศษ เช่น หัวใจ และตับ ไต นอกจากนี้ Q10 ยังช่วยลดไขมันที่สะสมในเนื้อเยื่อต่างๆซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอ้วนได้อีกด้วย

         ถึงแม้ว่าร่างกายเราสามารถสร้าง โคเอ็นไซม์ Q10 ขึ้นเองได้ แต่จะสร้างได้น้อยลงเรื่อยๆตามอายุที่เพิ่มขึ้น และเมื่อถึงวัยกลางคนจึงมักจะขาดโคเอ็นไซม์ Q10  จึงทำให้เกิดโรคเสื่อมเกี่ยวกับอวัยวะสำคัญขึ้นมากมายเช่าน หัวใจ ตับ และ ไต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ทำให้ปริมาณ คิวเทน ในร่างกายลดลงอีกเช่น ผลกระทบจากสภาพแวดล้อม การพักผ่อนไม่เพียงพอ การได้รับยา หรือ สารเคมี แม้แต่ความเครียด ก็ล้วนแต่มีผลทำให้ปริมาณ คิวเทน ในร่างกายลดลงทั้งสิ้น ดังนั้นร่างกายจึงควรได้รับ คิวเทน จากภายนอกด้วย เช่น จากอาหารเสริม หรือ จากอาหาร ได้แก่ น้ำมันปลา สัตว์ทะเลต่างๆ และ ในอาหารจำพวกพืช เช่น รำข้าว บร็อกโคลี ถั่วเหลือง เป็นต้น
         
      วิธีรับประทาน คิวเทน ให้ได้ผล เนื่องจาก คิวเทน เป็นสารอาหารที่ละลายได้ดีในไขมัน ดังนั้นมันจะถูกดูดซึมได้ดีหากรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน เช่น ถั่ว เนย หรือจะเห็นได้ว่าแค๊ปซูลที่บรรจุ คิวเทน มักจะเป็นแคบซูลที่ทำมาจากไขมัน

      การเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการที่จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ แต่การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ควรจะดูถึงมาตรฐานแลคุณภาพการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และ ที่สำคัญควรจะได้รับอนุญาติจากคณะกรรมการอาหารและยาด้วย เพื่อจะได้มั่นใจได้ว่าเรากำลังบริโภคสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น